…ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารและโฆษณามีอยู่รอบตัว การตรวจสอบความถูกต้องและเป็นธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ! คณะกรรมการว่าด้วยโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อดูแลให้โฆษณาเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
อำนาจของคณะกรรมการว่าด้วยโฆษณา (ตามมาตรา 27):
ให้แก้ไขข้อความหรือวิธีการในการโฆษณา: หากพบว่าโฆษณามีส่วนที่อาจทำให้เข้าใจผิดหรือไม่ถูกต้อง คณะกรรมการฯ สามารถสั่งให้ผู้ประกอบการแก้ไขข้อความหรือวิธีการโฆษณาได้
ห้ามการใช้ข้อความบางอย่างที่ไม่ปรากฏในการโฆษณา: เพื่อป้องกันการโฆษณาที่ใช้ถ้อยคำที่เกินจริง หรือสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค
ห้ามการโฆษณาหรือห้ามใช้วิธีการนั้นในการโฆษณา: หากโฆษณาเข้าข่ายหลอกลวง ไม่เป็นธรรม หรือผิดกฎหมายอย่างชัดเจน คณะกรรมการฯ มีอำนาจสั่งห้ามการโฆษณานั้นๆ หรือวิธีการโฆษณานั้นไปเลย
ให้โฆษณาเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้นแล้ว: กรณีที่โฆษณาได้เผยแพร่ออกไปและทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดไปแล้ว คณะกรรมการฯ สามารถสั่งให้มีการโฆษณาเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
“โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคประกอบกับความสุจริตใจในการกระทำของผู้ทำการโฆษณา”
นี่คือหลักการสำคัญที่คณะกรรมการฯ ยึดถือ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
ผู้บริโภคมีสิทธิร้องเรียน!
หากพบเห็นโฆษณาที่เข้าข่ายไม่เป็นธรรมหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด สามารถร้องเรียนได้!
ร้องเรียนผ่าน สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166
ผ่านเว็บไซต์ www.ocpb.go.th
และช่องทางอื่นๆ เช่น Facebook, X (Twitter), Instagram, YouTube, LINE, Pantip
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยืนหยัดเพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค
