รู้เท่าทัน “โรคพิษสุนัขบ้า” ป้องกันได้ ไม่ต้องเสี่ยงตาย!

โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อเรบีส์ไวรัส (Rabies Virus) ซึ่งสามารถติดต่อสู่คนได้ผ่าน การกัด ข่วน หรือเลียบาดแผล โดยสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ

⚠️ ผู้ติดเชื้อ หากแสดงอาการ = เสียชีวิต 100%‼️

อย่ารอให้ถึงวันนั้น มาเรียนรู้การป้องกันกันเถอะ

👥 กลุ่มเสี่ยง:

เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี

ผู้ถูกกัด/ข่วนจากสัตว์ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

🧼 เมื่อถูกกัดหรือข่วน ควรทำทันที:

ล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง

ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน

พบแพทย์ทันที

กักสัตว์ที่กัดไว้ดูอาการ 10 วัน (ถ้าทำได้)

🐶 สังเกตอาการสัตว์ติดโรคพิษสุนัขบ้า:

🔹 ระยะแรก: ซึม ไม่กินน้ำ ก้าวร้าว

🔹 ระยะตื่นเต้น: กลัวแสง เสียง น้ำ มีน้ำลายมาก

🔹 ระยะอัมพาต: อ่อนแรง หายใจลำบาก และตาย

🛡 คำแนะนำสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์

✅ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

✅ เลี้ยงสัตว์ในบ้าน ใส่สายจูงเมื่อนำออกไปข้างนอก

✅ ทำหมันสัตว์ ควบคุมการขยายพันธุ์

✅ ไม่ปล่อยให้สัตว์ไปกัดหรือทำร้ายผู้อื่น

🚫 จำไว้ให้ขึ้นใจ “5 ย.” ป้องกันสุนัขกัด:

อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา

อย่าแหย่ หรือทำให้สัตว์โมโห

อย่าแยก เวลาสัตว์กัดกัน

อย่าหยิบ อาหารสัตว์ขณะมันกิน

อย่ายุ่ง กับสัตว์ไม่รู้จักหรือไม่มีเจ้าของ

📌 อย่าประมาทกับ “แผลเล็ก ๆ” เพราะมันอาจพาชีวิตคุณไปได้!

หมั่นดูแลสัตว์เลี้ยง และป้องกันตัวเองทุกครั้งเมื่อใกล้ชิดสัตว์

ที่มา: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข